บทความเกษตร » วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน ประหยัดต้นทุน กบโตไว

วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน ประหยัดต้นทุน กบโตไว

15 กรกฎาคม 2022
1962   0

วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน ประหยัดต้นทุน กบโตไว

วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน

วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน


วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน คุณอาทิตย์  บุญมีรักษ์  เป็นเกษตรกรมือใหม่  อาศัยอยู่บ้านเลขที่  6 หมู่ 1 บ้านค้อ ตำบลกุดลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000 โทร 080-1645444  เป็นผุ้ที่สนใจเรื่องการเกษตร แต่ติดตรงที่มีเวลาน้อย เพราะต้องทำงานด้วย โดยกำเนิดแล้ว เป็นลูกชาวนา จึงหันมาสนใจการทำเกษตรพอเพียงโดยการทดลอง เลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก  เลี้ยงอยู่ประมาณ 2 ปีได้ แต่ส่วนมากแล้ว ที่เลี้ยงไว้จะใช้ทำเป็นอาหาร เป็นการลดค่าใช้จ่ายไปในตัว อย่างน้อยเราก็มีปลาที่เราเลี้ยงไว้ วันไหนไม่มีกับข้าว เราก็จับมันมาทำเป็นอาหารได้  ไม่มีอด   




ต่อมาได้หันมาศึกษาการเลี้ยงกบ  ทดลองเลี้ยงมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว  แต่ไม่ได้เลี้ยงในเชิงธุรกิจ ครั้งแรกที่เริ่มเลี้ยง ได้พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์มาเพียงแค่ 2 คู่  ก็เลยทดลองเพาะลูกอ๊อด โดยการศึกษาจากอินเตอร์เน็ต ลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง   
  • เพาะครั้งแรก  ไม่ประสบความสำเร็จ
  • เพาะครั้งที่สอง  จึงประสบความสำเร็จ ได้ลูกอ๊อดมาหนึ่งคอก  ประมาณ 100  ตัว เลี้ยงไป ๆ มา ๆ จนลูกอ๊อดกลายเป็นกบที่รอดตายจริง ๆ เพียงแค่ 10 ตัวเอง
  • เพาะครั้งที่สาม  จึงได้มาศึกษาการเพาะลูกอ๊อด และอนุบาลลูกอ๊อด ครั้งนี้ผมได้ลูกอ๊อดมาประมาณ หนึ่งคอกเช่นกัน แล้วก็ได้ทดลองอนุบาลจนลูกอ๊อดมีขางอกออกมา และกลายเป็นลูกกบ ประมาณ 1,000 กว่าตัว  ครั้งนี้ดีใจมากที่เพาะลูกอ๊อดได้สำเร็จ

วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน

        การเลี้ยงกบเป็นอาชีพ หนึ่งที่สามารถทำรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งในการเลี้ยงนั้นควรมีความเข้าใจถึงวิธีการเลี้ยงที่ถูกต้องก่อนจึงจะทำ ให้การเลี้ยงประสบความสำเร็จได้ ใช้พื้นที่ประมาณ 100 -200 ตารางเมตร ภายในคอกเป็นบ่อน้ำลึกประมาณ 1 เมตร บางแห่งอาจจะทำเกาะกลางบ่อเพื่อเป็นที่พักของกบและที่ให้อาหาร แต่บางแห่งก็ใช้ไม้กระดานทำเป็นพื้นลาดลงจากชานบ่อก็ได้ ส่วนพื้นที่รอบๆ ขอบบ่อภายในที่ห่างจากรั้วคอกอวนไนลอนกว้าง 1 เมตร ปล่อยให้หญ้าขึ้น หรือบางรายอาจปลูกตะไคร้เพื่อให้กบใช้เป็นที่หลบอาศัยภายในบ่อที่เป็นพื้นจะมีพวกผักตบชวา หรือพืชน้ำอื่น ๆ ให้กบเป็นที่หลบซ่อนภัยและอาศัยภายในบ่อที่เป็นพื้นน้ำจะมีพวกผักตบชวา หรือพืชน้ำอื่นๆ ให้กบเป็นที่หลบซ่อนภัยและอาศัยความร่มเย็นเช่นกัน คอกที่ล้อมรอบด้วนอวนไนลอนนี้ ด้านล่างจะใช้ถุงยางมะตอยผ่าซึก หรือแผ่นสังกะสีฝังลึกลงดินประมาณ 1 ศอก เพื่อป้องกันศัตรูบางชนิด เช่น หนู ขุดรูลอดเข้าไปทำอันตรายกับกบที่อยู่ในบ่อหรือในคอก ส่วนด้านบนของบ่อมุมใดมุมหนึ่ง จะมุงด้วยทางมะพร้าวเพื่อเป็นร่มเงา และยังใช้เป็นที่ให้อาหารกบอีกด้วย นอกจากนั้นบางแห่งยังใช้เสื่อรำแพนเก่า ๆ ที่ใช้ทำเป็นฝาบ้าน นำมาวางซ้อนกัน โดยมีลำไม้ไผ่สอดกลางเพื่อให้เกิดช่องว่างให้กับเข้าไปหลบอาศัย และด้านบนนั้นก็เป็นที่รองรับอาหารที่โยนลงไปให้กบกินได้เช่นกัน

ข้อดีของการเลี้ยงกบในบ่อดิน

  • เลี้ยงในบริเวณบ้าน หรือมีพื้นที่ทุ่งไร่ ทุ่งนาได้ดี
  • ลงทุนต่ำ กว่าเลี้ยงในบ่อปูน และแบบกระชัง
  • ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยๆ
  • ไม่เปลืองอาหารมากนัก เพราะกบยังหาอาหารตามธรรมชาติกินได้
  • เป็นการเลี้ยงเชิงพึ่งพาธรรมชาติเป็นหลัก ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย ผู้เลี้ยงมีเวลาทำงานอย่างอื่นๆได้มาก
  • กรณีถ้าระบบน้ำดีๆกบจะไม่ค่อยเป็นโรค และแข็งแรงดี
  • เป็นการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ได้อย่างเหมาะสม และคุ้มค่าที่สุดอีกแบบหนึ่ง




ข้อเสียของการเลี้ยงกบในบ่อดิน

  • หากผู้เลี้ยงมีอายุมาก จะเสี่ยงต่อการลื่นล้มเป็นอัมพาฒ หรือเป็นลมแดด จมน้ำเสียชีวิตได้ เพราะอาจต้องใช้สะพานเดินลงไปให้อาหารภายในบ่อ(ถ้าบ่อใหญ่ๆ)
  • ยากต่อการสังเกตและดูแลกบที่เป็นโรค เพราะอยู่กันกระจัดกระจาย ทั่วไป
  • ยากต่อการให้อาหารอย่างทั่วถึง และกบมักจะมีพยาธิ ต้องให้ยาถ่ายพยาธิเดือนละ 1 ครั้ง
  • ถ้าทำที่กั้นบ่อไม่ดี กบอาจจะหนีไปได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว
  • ยากต่อการตรวจนับจำนวนกบที่เหลือชีวิตรอดในบ่อดิน
  • ยากต่อการจับขายหรือคัดขนาดที่ตัวโตๆขายไปก่อน เพราะส่วนใหญ่ต้องจับพร้อมๆกันทั้งบ่อ โดยสูบน้ำออกให้หมดก่อน
  • ถ้าเลิกเลี้ยงจะต้องซื้อดินมาถมบ่อ เพื่อนำพื้นที่ไปทำอย่างอื่น สิ้นเปลืองมากๆ
บ่อเพาะลูกก วัสดุที่ใช้ ประกอบไปด้วย
  • ตาข่าย
  • ผ้ายางล
  • ลวด
  • ครีมตัดลวด
วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน

ขั้นตอนการทำบ่อเพาะเลี้ยงกบ

  • ขุดบ่อขนาด  1.50 x 2.00 เมตร ความลึกตรงกลางของบ่อ  ประมาณ  15  เซนติเมตร
  • ขอบบ่อปรับพื้นดินให้มีความลาดเอียง
  • นำผ้ายางมาปู แล้วนำดินมากลบขอบผ้ายางให้มิดชิด
  • นำตาข่ายมาล้อมรอบบ่อ เพื่อป้องกันศัตรูกบ
  • นำหญ้ามาปลูก เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด  เพื่อให้พ่อแม่พันธุ์ขึ้นไปหลบซ่อนตัวได้
  • ต่อท่อน้ำติดสปริงเกอร์ เพื่อทำเป็นฝนเทียม

การผสมพันธุ์กบ

ส่วนมากกบจะทำการผสมพันธุ์ และวางไข่หลังจากฝนตก เมื่อเลือกกบ ที่มีลักษณะดีแล้วให้นำมาปล่อยในบ่อผสมพันธุ์ในอัตราตัวผู้ 5 ตัวต่อตัวเมีย 10 ตัว (ตัวผู้กับตัวเมียมีขนาดเท่ากัน) ระดับน้ำในบ่อลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร ภายในบ่อ ใส่พวกหญ้าไปด้วยพอประมาณ รักษาระดับน้ำให้คงที่ตลอดเวลา ในช่วงนี้งดให้ อาหารประมาณ 2-3 วัน ถ้ายังไม่มีฝนตกให้เปลี่ยนน้ำใหม่และอาจพ่นน้ำในบ่อผสมพันธุ์ ไห้เหมือนกับฝนตก หลังจากนั้นกบก็จะผสมพันธุ์และวางไข่ในเวลาเช้ามืด

วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน
หลังจากกบวางไข่แล้ว ให้นำพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ออกจากบ่อ หลังจากการวางไข่ประมาณ 1 วัน ไข่ก็จะฟักออกเป็นตัว
บ่อนี้เป็นบ่อที่ผมทดลองเพาะลูกอ๊อดและประสบความสำเร็จในการเพาะ และสามารถเพาะลูกอ๊อดได้ในแต่ละครั้งถึง  2-3  กิโลกรัม และเราสามารถขายได้ในราคากิโลกรัมละ  200 บาท
มาดูบ่อที่เตรียมไว้เป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ 
วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน
บ่อนี้ครับ มีอายุ  5 – 6  เดือน ครับ  อีกไม่นาน ก็คงจะพร้อมที่จะลงบ่อเพาะเลี้ยงได้ครับ  ลองมาดูอีกบ่อหนึ่งครับ ที่ผมเลี้ยงไว้  การให้อาหาร  ผมจะแยกให้กบขึ้นไปกินบนบก  เพื่อป้องกันน้ำเสียครับ ซึ่งโดยปกติแล้ว ผมจะเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกวัน  แต่ตอนนี้ผมจะเปลี่ยนถ่ายน้ำทุก  2  วันครับ จะสังเกตเห็นว่าน้ำในบ่อน้ำนี้ไม่ได้ใหญ่มากนะครับ ลึกประมาณ  3  นิ้วครับ ประหยัดน้ำ  อาหารที่ให้ก็ไม่ละลายน้ำเสียจนหมดครับลองมาดูอีกบ่อครับ  บ่อนี้อา่ยุ 4-5  เดือนครับ  แต่เหลือไม่เยอะครับ ประมาณ 100 ตัวเศษ ๆ เพราะจับมาทำเป็นอาหารบ้าง จับขายภายในหมู่บ้านครับ กิโลกรัมละ  100  บาท
วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน
ถ้าจะพูดถึงว่าที่เลี้ยง ๆ มาคุ้มมั้ย กับการลงทุนไป คือเราต้องมองว่า ที่เราเลี้ยง ๆ เพื่ออะไร เราเลี้ยงไว้เพื่อจำหน่าย  หรือเลี้ยงไว้เพื่อเป็นอาหาร  แต่ผมคิดว่ามันคุ้มถ้าเราเลี้ยงไว้เพื่อเป็นอาหาร  แต่ถ้าเราไม่กิน เราก็จับขายเพื่อได้ แต่ถ้าจะเลี้ยงในเชิงการค้า ต้องเตรียมพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไว้เยอะ ๆ ครับ ต้องมีการจัดการที่ดีด้วย

สิ่งที่ควรคำนึงและเตรียมตัวก่อนเลี้ยงกบ 

ต้องศึกษาหาความรู้เบื้องต้นในการเลี้ยงกบจากฟาร์มกบโดยตรงหรือผู้ที่เลี้ยง กบอยู่แล้ว อย่าอาศัยแค่อ่านจากเว็ปหรือหนังสือ เพราะการปฏิบัติจริงต้องละเอียดอ่อนมาก ๆ




การจัดการที่ดี
  • เริ่มตั้งแต่การดูแลบ่อพัก พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และการให้อาหาร
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำในบ่อเลี้ยงทุก  2  วัน
  • ทำความสะอาดบริเวณที่ให้อาหารก่อนการให้อาหารทุกครั้ง เนื่องจากบริเวณที่เราให้อาหาร จะมีเศษอาหารที่กบกินไม่หมด เก็บทำความสะอาดออกไป
  • ต้องคอยสังเกตด้วยว่ามีกบตัวไหนที่กินอาหารไม่ทันเพื่อน ให้จับแยกไปไว้บ่อใหม่เลยครับ เพราะถ้าไม่แยกจะทำให้การเจริญเติบโตของกบช้า
บ่อเพาะลูกอ๊อด
วันที่ 7 ส.ค. 2554 วันนี้ผมได้นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ลงบ่อเพาะลูกอ๊อด จำนวน  3  บ่อครับ  และรุ่งเช้ามา พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ จับคู่ และวางไข่แล้วครับ  รอดูต่อไปครับว่าจะเป็นยังไง เดี๋ยวจะนำภาพมาให้ดีอีกทีหนึ่ง
วันที่ 9 ส.ค. 2554  วันนี้บ่อเพาะลูกอ๊อดของผมทั้ง  3  บ่อ ฟักเป็นตัวแล้วครับ
วิธีการเพาะเลี้ยงกบในบ่อดิน

การอนุบาลและการให้อาหาร

  • หลังจากที่ลูกกบฟักเป็นตัวอีกประมาณ 2  วัน เราค่อยให้อาหาร
  • สัปดาห์ที่ 1  ให้กินไข่แดงไปก่อน วันละ  1  ครั้ง
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำสัปดาห์ละ  1  ครั้ง  การเปลี่ยนน้ำให้เอาน้ำในบ่อออกประมาณ 2 ใน 3 ของน้ำที่มีในบ่อ  หลังจากนั้นใำห้เพิ่มน้ำเข้าไปให้ได้ระดับเดิม  (หรืออาจจะเปลี่ยนน้ำเมื่อสังเกตเห็นว่าน้ำเริ่มเน่าเสียแล้ว)
  • สัปดาห์ที่ 2  ให้กินไข่แดงตอนเช้า  ตอนเย็น ให้หัวอาหารกบเบอร์เล็กสุด บดให้เป็นผง แล้วโรยให้ทั่วบ่อ
    สังเกต ด้วยว่า หากอาหารในบ่อยังเหลือ ตอนเย็นก็ไม่ต้องให้อาหารเพิ่ม เพราะจะทำให้น้ำเน่าเสีย
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำเมื่อสังเกตเห็นว่าน้ำเริ่มเน่าเสียแล้ว
  • สัปดาห์ที่ 3  ให้เฉพาะหัวอาหาร  บดให้แตก แต่ไม่ต้องให้แตกละเอียดมาก วันละ  2  ครั้ง เช้าเย็น
  • สัปดาห์ที่ 4  เมื่อสังเกตเห็นว่า ลูกอ๊อดมีขางอกออกมาแล้วก็สามารถจับจำหน่ายได้

ผ่านมา  10 วันแล้วครับ ลูกกบเริ่มโตแล้วครับ ผมจะให้อาหารลูกกบตอนเช้า โดยการให้หัวอาหาร บุให้แตก แล้วโรยให้ทั่วบ่อ ทุก ๆ วันก่อนการให้อาหาร ให้สังเกตดูด้วยว่าอาหารที่ให้ไปนั้น ลูกกบกินหมดหรือยัง ถ้ายังเราอาจจะไม่ให้เพิ่ม หรือให้เพิ่มก็เพียงเล็กน้อย เพื่อที่น้ำในบ่อจะได้ไม่เน่าเสีย และต้องคอยเพิ่มปริมาณน้ำทุก ๆ  2  วัน

การอนุบาลลูกอ๊อดให้เป็นกบ

คัดแยกลูกอ๊อดที่มีขางอกออกมาครบทั้ง  4  ขาแล้ว  ออกจากบ่อลูกอ๊อด นำไปลงบ่ออนุบาลลูกกบ เพื่อป้องกันการกัดกินกันของลูกอ๊อด  ลูกอ๊อดจะรอดตายเป็นลูกกบให้เราก็ช่วงนี้แหละครับ เราต้องคอยคัดแยกลูกอ๊อดทุก  2-3  วันครับ

การเลี้ยงกบในบ่อดิน  จากการที่ลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง จนมาถึงวันนี้ สามารถเพาะเลี้ยงกบได้ประสบผลสำเร็จ  ตอนนี้ผมมีบ่อเพาะลูกอ๊อด  2  บ่อ  บ่อคัดแยกลูกอ๊อด  4  บ่อ  บ่อขุน 2  บ่อ และบ่อเก็บพ่อพันธุ์อีก  2  บ่อ

การเลี้ยงกบ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ลองทำจริง ๆ แล้ว ยุ่งยาก เพราะต้องดูแลเอาใจใส่อย่างดี ผลตอบแทนจากการเลี้ยงกบที่ผ่านมา



ราคาขายกบในช่วงหน้าฝน

ตอนนี้กบที่เลี้ยงไว้ น้ำหนักอยู่ที่ 7 – 8 ตัว/กิโลกรัม

  • ราคาขายส่ง             กิโลกรัมละ         60 – 70   บาท
  • ราคาขายปลีก           กิโลกรัมละ         80 – 100  บาท

ราคาขายกบนอกฤดูกาล

  • ราคาขายส่ง         กิโลกรัมละ     70 – 80  บาท
  • ราคาขายปลีก       กิโลกรัม           100  บาทขึ้นไป

ราคาขายลูกอ๊อด

  • ราคาขายส่ง      กิโลกรัม      140 – 150  บาท
  • ราคาขายปลีก    กิโลกรัม      180 – 200  บาท

ราคาขายลูกกบ ที่ตัดหางแล้ว

  • ลูกกบ  อายุ   1   เดือน                 ตัวละ            1   บาท
  • ลูกกบ  อายุ   45 วัน – 2   เดือน      ตัวละ          2-3  บาท
การเลี้ยงกบในบ่อดิน จะต้องดูแลเรื่องระบบจัดการน้ำ การระบายน้ำ การให้อาหาร ตลอดจนการป้องกันเรื่องโรคกบ ศัตรูกบ จากการเลี้ยงที่ผ่านมายังไม่พบปัญหาเรื่องโรคกบ แต่พบศัตรูกบ นั่้นก็คือนก อีกา ที่คอยจะมาจับกินกบ  และศัตรูํของลูกก็บ นั่นก็คืองู ที่มาวนเวียนรอบ ๆ บ่อกบ ผมต้องคอยออกไปส่องไฟดูตามบ่อกบทุกคืน เพื่อจัดการกับศัตรูกบ ด้วย

อัตราการรอดตายของลูกกบ 80-90% การเลี้ยงกบ ควรทดลองเลี้ยงลูกอ๊อดให้โตเป็นกบก่อน แล้วจะรู้ว่าปัญหาของการเลี้ยงลูกอ๊อดให้รอดตายได้ ก่อนที่จะโตเป็นกบต้องทำยังไงบ้าง เลี้ยงไป ศึกษาการเจริญเติบโตของลูกกบ ปัญหาการกัดกินกันของลูกกบ ปัญหาการตายของลูกกบ เกิดจากอะไร ในการเลี้ยงกบในบ่อดิน สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแล แนะนำให้มุงหลังคาด้วยตาข่าย เพื่อป้องกันนก กา ฯลฯ เข้ามากินกบ

ปัญหาการเลี้ยงกบในบ่อดิน

ศัตรูกบ

  • งู  แอบเข้าไปกินกบในนา ซึ่งป้องกันลำบาก
  • นก แอบเข้ามาหากินกบในนา เพราะไม่มีตาข่ายล้อม
  • หนู แอบเข้ามากัดตาข่ายที่ล้อมไว้ ทำให้กบหลบหนีออกไปข้างนอกได้

การดูแลความสะอาดของน้ำในบ่อ

  • การดูแลน้ำในบ่อไม่ดีพอ เกิดแก๊สแอมโมเนีย ทำให้สุขภาพจิตของกบไม่ดี
    วิธีแก้ไข เปลี่ยนถ่ายน้ำเมื่อเห็นว่าน้ำเริ่มเสียแล้ว
  • สิ่งที่ตามมาคือ กบเกิดเป็นแผล เกิดโรคขาแดง ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในน้ำ ทำให้กบตาย อาจตายยกบ่อได้
    วิธีแก้ไข ย้ายกบออกจากบ่อที่ติดเชื้อ และคัดแยกกบที่ติดเชื้อออกจากบ่อ แล้วทำความสะบ่อ โดยการตากบ่อให้แห้ง แล้วโรยปูนขาวลงไปในบ่อทิ้งไว้ 1 สัปดาห์
  • กบกัดกินกันเอง เกิดจากการเลี้ยงกบแน่นเกินไป และให้อาหารกบกินไม่ทั่วถึง ทำให้กบกันกันเอง
    วิธีแก้ไข ต้องคัดแยกกบตัวที่โตออกจากบ่อยายไปอยู่บ่อใหม่ให้มีขนาดเท่า ๆ กัน เพื่อป้องกันกบกัดกินกัน และให้อาหารกบกินอย่างทั่วถึง




การเพิ่มมูลค่าโดยการแปรรูป 
“อั่วกบ” อาหารพื้นบ้านจานนี้ ผมทดลองทำดู  ส่วนประกอบ ก็จะมี

  • กบ 1  กิโลกรัม
  • เนื้อกบครึ่งกิโลกรัม
  • เนื้อหมูครึ่งกิโลกรัม
  • วุ้นเส้น   4 ขีด 
  • ใบแมงลัก 
  • พริกแกง 
  • พริกขี้หนู 
  • ตะไคร้ 
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย
  • เกลือ 

ขั้นตอนต่อไป

  • ชำแหละ กบ ลอกหนัง ตัดหัวตัดเท้า ควักเครื่องในออก ล้างน้ำให้สะอาดแล้วพักให้สะเด็ดน้ำ
  • ส่วนเนื้อกบและเนื้อหมูสับรวมกันให้ละเอียด เตรียมไว้เป็นไส้
  • จากนั้นนำ  ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบแมงลัก พริกสด พริกแกง เกลือ ผสมใส่ครกโขลกหยาบๆ
  • ตักส่วนผสมคลุกเคล้ากับหมูบด  กบสับ และ วุ้นเส้นให้เข้ากัน

ยัดส่วน ผสมที่ได้ทั้งหมด ใส่ตัวกบให้แน่นจนพองโต แล้วนึ่งประมาณ 10 นาทีให้เครื่องข้างในสุก ใส่น้ำมันลงกระทะพอร้อน นำกบที่นึ่งแล้วลงไปทอดอีกครั้ง จนกบยัดไส้สุกเหลืองหอม 


ที่มา : อาทิตย์  บุญมีรักษ์  เป็นคนอุบลราชธานีครับ อาศัยอยู่บ้านเลขที่  6 หมู่ 1 บ้านค้อ ตำบลกุดลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี 34000 โทร 080-1645444 ,Sarakat.com/การเพาะเลี้ยงกบ/