เคล็ดลับผักสวนครัว ง่ายๆไว้รับประทานเองในครัวเรือน
ในการปลูกผักสวนครัวไว้บริโภคต้องยึดหลัก 4 ประการ คือ ใช้พื้นที่ปลูกให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ต้องปลูกปักให้ได้มากชนิดที่สุดเพื่อจะมีผักไว้บริโภคหลายๆ อย่าง ต้องเลือกชนิดผักที่ชอบริโภคสามารถรับประทานได้ทุกวันมีคุณค่าทางอาหารแมลงไม่ชอบ และปลอดภัยจากสารเคมี
วิธีเลือกผักในบ้านให้ได้ผลดีต้องเลือกพันธุ์ที่ปลูกง่ายไม่ยุ่งยากจนเกินไป และใช้บริโภคในครัวเรือนเป็นประจำ เช่นกวางตุ้ง ผักกาดเขียว ผักชี ผักบุ้ง กระเพรา เป็นต้น ปลูกได้ตลอดทั้งปีอายุการเก็บเกี่ยวอยู่ระหว่าง 35-55 วัน หรือเรียกว่าปักอายุสั้น สภาพแสงเงาที่ผักแต่ละชนิดต้องการไม่เท่ากันโดยแบ่งความต้องการออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
- ผักที่ไม่ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน แปลงปลูกประเภทนี้ควรปลูกผักที่สามารถเจริญเติบโตในร่มได้ เช่น ชะพลู สะระแหน่ ตะไคร้ ขิง ข่า กะเพรา เป็นต้น
- ประเภทที่ต้องการแสงตลอดวัน ผักที่ควรปลูกได้แก่ ถั่วฝักยาว คะน้า ผักกาดเขียว กวางตั้ง พริกต่างๆ
การปลูกผักนั้นควรมีความพิถีพิถันในการดูแล ในการปลูกผักสวนครัวผู้ปลูกควรมีเวลาดูแลวันละ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเนื้อที่ปลูก สำหรับผู้ที่เริ่มปลูกผักสวนครัวนั้นอาจต้องมีการวางแผนกันเล็กน้อยก่อนเริ่มลงมือปลูก ทั้งนี้เพื่อขจัดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น และทำให้การปลูกผักสวนตัวไม่ลลวงไปด้วยดีจึงขอนำเสนอเคล็ดลับในากรปลูกผักสวนครัวเพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับผู้ที่จะหันมาปลูกผักสวนคัวในที่พักอาศัย
1. ขั้นเตรียมการเลือกผักที่จะปลูก
ควรเลือกผักที่ใช้บ่อย โดยเลือกปลูกทั้งพืชยืนต้น และพืชล้มลุก พืชยืนต้นที่น่าปลูกได้แก่ แค มะกรูด มะมะนาว โหระพา กะเพรา แมงลัก ข่า ตระไคร้ พริก และมะเขือ ซึ่งพืชพวกนี้ปลูกง่ายเก็บผลได้นาน ส่วนพืชล้มลุก ควรเลือกที่สมาชิกในบ้านชอบในการวางแผนปลูกนั้นต้องเลือกทยอยปลูก จะประหยัดเวลาในการดูแลรักษา ประหยัดนำ และปุ๋ยด้วย ส่วนปุ๋ยนั้นสามารถทำเองได้ในบ้านโดยนำเอาเศษผัก เปลือกผลไม้ เศษหญ้า เปลือกไข่มากองรวมกัน รดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง อีก 3-4 เดือน ก็จะผุเปื่อยกลายเป็นปุ๋ยนำมาใช้กับแปลงผักสวนครัวในบ้านได้ ปุ๋ยคอกที่ขายตามร้านต้นไม้มีราคาค่อนข้างแพง แต่ก็หาซื้อได้สะดวก แต่ถ้ามีเวลา ขอแนะนำให้ไปเลือกซื้อแถบซานเมืองของกรุงเทพ เช่น ปทุมธานี นครปฐม เป็นต้น ผู้ที่อยู่ในต่างจังหวัดจะได้เปรียบในเรื่องนี้เพราะสามารถหาซื้อปุ๋ยคอกได้ง่าย ส่วนแกลงนั้นหาซื้อได้จากโรงสี ถ้าไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนก็ถามร้ายต้นไม้ดูก็ได้ หรือใช้วัสดที่มีภายในบ้านทำปุ๋ยเองก็ได้ซึ่งจะเป็นการประหยัดอีกวิธีหนึ่งด้วย
2. เตรียมแปลงผัก
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอย่างมากก็คือ ควรเลือกปลูกใกล้สถานที่อยู่อาศัย ดินดีหรือควรมีการปรับปรุงดิน ก่อนเช่นการใส่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอกก่อน แปลงผักควรตากแดด อย่างน้อยครึ่งวัน ถ้าปลูกผักติดกันหลายๆ แปลงต้องให้แปลงผัก ขนานไปกับทิศตะวันตกและตะตะวันออก เลือกปลูกผักที่มีความสูง ต่ำแตกต่างกันไว้ในแปลง ใกล้กันเพื่อจะได้ไม่บังแดดกัน ช่วยในการสะสมอาหารและป้องกันโรค
การเตรียมแปลงเพราะปลูกนั้นต้องมีการขุดดินขึ้นมาตากแดดไว้ 7-5 วัน ใส่ปุ๋ยเพื่อปรับสภาพดิน ยกหน้าดินให้สูงจากพื้นทางเดิน 10 ชม. แต่งหน้าดินให้เรียบการหว่านเมล็ดพันธุ์ทำได้ 2 วิธีคือ วิธีการหว่านเมล็ดพันผักนั้นควรหว่านให้สม่ำเสมอ อย่าให้แน่นเกินไป จะทำให้ติดโรคได้ง่ายแล้วหว่านดินกลบ ใช้จอบตีร่องให้เป็นแถวตามความกว้างหรือความยาวของแปลงเพาะกล้าก็ได้ ให้แต่ละแถวมีระยะห่างกัน 1 คืบ โรยเมล็ดด้วยดินแล้ว ควรใช้แกลบหรือฟางแห้งคลุมดินเพื่อรักษาความชื้น และป้องกันการเคลื่อนย้ายของเมล็ดพันธุ์ผัก และกล้าอันเนื่องจาการรดน้ำ และต้นกล้าไม่บอบช้ำหรือสูญเสียการงอก
ส่วนการเพาะในกระบะเป็นวิธีที่สะดวก สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผักสวนครัวควรม์ชนาด 30*50*10 ชม. ทำจากไม้หรือวัสดุใดก็ได้ตามแต่สะดวก ดินที่ใส่ควรอัตราผสมระหว่างทราย ปุ๋ยหมัก ดินละเอียดอย่างละเท่าๆ กัน และทำเป็นร่องเล็กๆ ห่างกันประมาณ 3-4 ชม. ความลึกของร่องประมาณ 1 ชม. และโรยเมล็ดพันธุ์ที่จะปลูกลงไป กลบด้วยดินบางๆ ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์คลุมปิดหน้ากระบะไว้เพื่อรักษาความชื้นประมาณ 7-10 วัน เมล็ดจะงอกดันกระดาษหนังสือพิมพ์จึงเปิดกระดาษหนังสือพิมพ์ออก
3. เมล็ดพันธุ์ผัก
มีทั้งที่ต้องซื้อและไม่ต้องซื้อที่ต้องซื้อได้แก่กะหล่ำปลี ผักกาดต่างๆ เป็นต้นต้นควรเลือกซื้อจากร้าน ที่ไว้ใจได้เมล็ดพันธุ์ไม่วางตากแดด เมล็ดที่เหลือจากการปลูกให้เก็บใส่กระป้องหรือฮวดปิดฝาใก้แน่นวางไว้ในที่เย็นอย่าตากแดดกร็อวางใกล้ไอร้อนถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นจะดีมาก ประเภทที่ไม่ต้องซื้อมี 2 ประเภทคือพวกกิ่งก้าน เช่น ตระไคร้ ผักบุ้ง กะเพรา เป็นต้น ใช้โคนกิ่งที่ใช้มืดคมๆ ตัดโคนทิ้งเล็กน้อยทิ้งให้แผลแห้งแล้วจึงนำลงปลูกเอนๆ โดยเอาไม้เล็กๆ แทงดินนำก่อนอย่าเอาก้านผักแทงโดยตรงและผักประเภทผล แกะเอาเมล็ดปลูกได้ เลยเช่น พริกมะเขือส่วนถั่ว มะเขือ เอาผลแก่ๆ ตากแดด เอาผึ่งไว้ในร่ม 7-8 วันแล้วแกะ เมล็ดไปปลูก
4. การใส่ปุ๋ย
ปุ๋ยที่จำเป็นได้แก่ ปุ๋ยมูลสัตว์หรือปุ๋ยคอก ต้องใส่ทุกครั้งก่อนการปลูกพืช เรียกว่าปุ๋ยรองกันหลุม หรือปุ๋ยรองพื้น นับว่ามีความสำคัญมากในการปรับสภาพทางกายภาพของดินเพื่อให้ดินโปร่ง ระบายน้ำได้ดี และปรับความอุดมสมบูรณ์ของดินด้วยและช่วยให้ดินอุ้มน้ำ รักษาความชื้นหรืออาจใช้ปุ๋ยหมักด้วย ส่วนปุ๋ยเคมีนั้นใส่เสริมเล็กน้อย ตอนปลูก เพื่อเร่งใบ เร่งดอกเท่านั้น โดยมีสูตรว่าผักที่กินผลต้องใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 ส่วนผักกินใบนั้นใช้ปุ๋ยยูเรียหรือแอมโมเนียมซัลเฟตมาใส่
5. การดูแลรักษา
นอกจากการรดน้ำพรวนดินและใส่ปุ๋ยตามปกติแล้ว จะต้องดูผักในสวนครัวอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง แต่ใบที่แก่เกินไปหรือเป็นสิ่งเหลืองออก ถ้าพบแมลงหรือไข่หนอนให้จับและทำลาย ในแปลงพืชที่มีดอกตัวผู้และตัวเมียคนละดอกกัน เช่น แตงกวา บวบ ฟักทอง มะระ เป็นต้น ถ้าไม่ติดลูกให้เด็ดดอกตัวผู้ที่เพิงบานมาครอบดอกตัวเมียที่เพิ่งบานและเคาะเบาๆ ให้ละอองเกสรหล่นบนดอกตัวเมีย จะทำให้ติดผลดีขึ้น ดอกตัวผู้ 1 ดอก สามารถครอบดอกตัวเมียได้ 4-5 ดอก นับได้ว่าการปลูกพืชผักนั้น ต้องการการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้การกำจัดโรคและแมลงนับได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะผักบางชนิดนั้นแมลงชอบมากเป็นพิเศษ เช่นผักกาดขาว กวางตั้ง เป็นต้น สามารถใช้วิธีการปลูกผักที่แมลงไม่ชอบล้อมรอบหรือเป็นผักกันชนอย่างไรก็ตามการกำจัดโรคและแมลงศรัตรูพืชสำหรับผักสวนครัวนั้นเน้นวิธีธรรมชาติคือ การปฏิบัติดูแลให้ผักที่ปลูกแข็งแรง เพื่อได้มีความต้านทานโรคส่วนการกำจัดแมลงศัตรูเน้นการใช้มือจับทำลาย ถ้ามีการระบาดมากก็ใช้สารธรรมชาติ เช่น สะเดา เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้ผักที่ปลูกนั้นปลอดสารเคมีอย่างแท้จริง
6. การเก็บผัก
ผักประเภทกินผลต่างๆ เช่น พริก ถั่ว มะเขือ ควรเก็บขณะที่ยังไม่แก่จัดและเก็บติดขั้วด้วย ส่วนผักกินใบ เช่น ผักบุ้ง กวางตั้ง คะน้า ต้องตัดให้ใบติดที่ต้น 2-3 ใบ และดูแลรักษาต่อไป ผักจะแตกยอดใหม่ ให้เก็บกินได้อีกหลายครั้ง เคล็ดลับการเก็บผักสุดเพื่อนำมาประกอบอาหารนั้น คือสดน่ารับประทานมีรสชาดเหมือนเดิม และมีสารอาหาร เกลือแร่ วิตามินครบถ้วน เพียงแต่พิถันในการเก็บการปรุงโดยการเก็บผักสดให้ได้คุณค่าทางอาหารสูงนั้น ควรเป็นผักที่อ่อนและสดไม่ควรเก็บผักที่แก่เกินไป หรือเริ่มเหี่ยว นอกจากนี้ผักต้องไม่ซ้ำ และขั้วตอนในการล้างก็ควรทำอย่างระมัดระวัง
ข้อแนะนำ คือมีดที่หันผักมีความคม หากเป็นผักที่มียางควรใช้มืดสแตนเลสจะช่วยไม่ให้ผักดำหรืออาจใช้น้ำผสมน้ำมะนาวเจือจาง ในการล้างผักประเภทนี้จะช่วยให้ผักขาวน่ารับประทาน ในการล้างผักควรล้างทั้งต้นหรือผล ไม่ควรหั่น ตัด หรือปอกก่อน เพราะจะทำให้แร่ธาตุ วิตามินหลุดไปกับน้ำได้
7. การเก็บพันธุ์เอง
ผักบางชนิดสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ได้เอง โดยเลือกเก็บจากต้นที่สมบูรณ์ ผลดก รสดี ไม่มีโรค ล้างเมล็ดพันธุ์ให้สะอาดแล้วตากให้แห้งสนิทซึ่งควรตากประมาณ 3-4 แดด อย่าตากในถาดอลูมิเนียมเพราะร้อนจัดเกินไป เมล็ดจะไม่งอก ระหว่างที่ตากอาจมีมอดมาวางไช่จะมีสีขาวจุดเล็ก ๆ ซึ่งฟักตัวกลายเป็นหนอนภายใน 24 ชั่วโมง หนอนจะเจาะกินเข้าไปในเมล็ด ดังนั้นหลังจากการตากให้แห้งสนิทแล้วควรคลุกด้วยสารกันแมลง ก่อนนำไปเก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด หรือถุงพลาสติกที่ปิดปากแน่นแล้วจึงนำไปเก็บในที่เย็นและมีอากาศแห้งต่อไป
การปลูกผักในครั้งต่อ ๆ ไป ในการปลูกผักในครั้งต่อๆ ไป ให้ปลูกให้เหมาะสมกับความต้องการของครอบครัว โดยใช้ประสบการณ์จากการปลูกครั้งแรกควรปลูกผักติดต่อกันตลอดทั้งปีอย่าให้แปลงว่าโดยเฉพาะในฤดูร้อน และฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่มีผักมีราคาแพง ทำให้ประหยัดได้มาก ปัจจุบันได้มีการจัดโครงการส่งเสริมการพึ่งตนเองเพื่อให้เกษตรกรและประชาชนได้ปลูก พืชผักสวนครัวรั้วกินได้
สำหรับการบริโภคผักในครัวเรือนและการลดค่าใช้จ่ายอีกทางหนึ่งด้วยซึ่งความหมายของผักสวนครัวรั้วกินได้ คือผักที่ปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน แบ่งเป็น กลุ่มพืชผัก เช่น กล้วย กลุ่มพืชผักและสมุนไพรที่ใช้เป็นเครื่องครัว เช่น พริกขี้หนู กลุ่มพืชผักที่ใช้รับประทานสดหรือใช้ประกอบอาหารประจำวัน เช่นฟักทอง และกลุ่มพืชผักที่เป็นรั้วกินได้หรือปลูกบริเวณบ้านทั่วไปส่วนใหญ่เป็นผักพื้นบ้าน เช่น ผักหวาน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ