เทคโนโลยีด้านการเกษตร » นำโดรนมาการใช้งานเพื่อการเกษตร ทำต้องอย่างไรบ้าง?

นำโดรนมาการใช้งานเพื่อการเกษตร ทำต้องอย่างไรบ้าง?

6 กันยายน 2025
45   0

นำโดรนมาการใช้งานเพื่อการเกษตร ทำต้องอย่างไรบ้าง?

นำโดรนมาการใช้งานเพื่อการเกษตร

ปัจจุบันการ นำโดรนมาการใช้งานเพื่อการเกษตร กำลังมีบทบาทอย่างมากต่อเกษตรกรไทย โดรนเพื่อการเกษตรแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ 2 ประเภท คือ

  1. ใช้สำรวจและวางแผนการผลิตพืช ไม่ว่าจะการสำรวจพื้นที่ติดตามการเติบโตของพืช เพื่อนำมาคาดการณ์ผลผลิตหรือวางแผนการจัดการแปลง
  2. ใช้เพื่อทุ่นแรง เช่นการหว่านเมล็ดพืช ปุย หรือฉีดพ่นสารเคมี โดยการใช้โดรนเพื่อช่วยในการเกษตรจะทำให้เกษตรกรประหยัดแรงงานค่าใช้จ่าย สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ลดการสัมผัสสารเคมีทางการเกษตรโดยตรง ลดการใช้น้ำ อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้สะดวกทั่วถึงมากขึ้น ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับเกษตรกรยุคใหม่

การขึ้นทะเบียนโดรนเพื่อการเกษตร

ผู้ที่ครอบครองและใช้โดรนต้องได้รับใบอนุญาตบินโดรนก่อนการบินและต้องได้รับการฝึกอบรมการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้อง โดยการบินโดรนพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช มี 3 หน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่

  • สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท, CAAT) เป็นหน่วยงานรับการขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรน หรือการทำใบขับขี่โดรน
  • สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย (กสทช., NBTC) เพื่อขอใช้คลื่นความถี่
  • สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตรกรมวิชาการเกษตร เป็นหน่วยงานที่ออกใบอนุญาติ ครอบครองวัตถุอันตรายเพื่อใช้หรือใช้รับจ้างฉีดพ่นโดรนทางการเกษตร ผู้ปฏิบัติต้องผ่านการอบรมโดยได้รับใบผ่านการอบรมจาก กพท. ก่อนขออนุญาตครอบครอง

ข้อควรปฏิบัติในการบินโดรน

  1. ศึกษากฎหมายและปฏิบัติตามข้อบังคับในการใช้โดรน
  2. ผู้ปฏิบัติงานต้องได้รับใบอนุญาตบินโดรน และได้รับการฝึกอบรมการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้อง
  3. ห้ามบินใกล้อากาศยานซึ่งมีนักบิน
  4. ห้ามบินเข้าใกล้เมฆ
  5. ห้ามบินในขตหวงห้าม เช่น สถานที่ราชการ โรงพยาบาลเว้นแต่ได้รับอนุญาต
  6. ห้ามพ่นสารใกล้แหล่งน้ำ คลอง บึง
  7. ต้องไม่มีสิ่งกีดขวางบริเวณทำการบินโดรน เช่น ต้นไม้เสาไฟ สายไฟ หรือกำแพง
  8. ห้ามบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร จากสนามบินเว้นแต่ได้รับอนุญาต
  9. ห้ามบินโดยก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญแก่ผู้อื่น
  10. ห้ามบินโดยก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน
  11. ห้ามบินสูงเกิน 90 เมตร นับจากพื้นดินและห้ามบินในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้างน้อยกว่า 30 เมตร
  12. ห้ามบินหลังพระอาทิตย์ตกดิน

ข้อควรปฏิบัติก่อนการบินโดรน พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช

อุปกรณ์โดรน

ตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนปฏิบัติงาน เช่น ระบบการใช้งานไม่มีการรั่วไหล เลือกหัวฉีดที่ถูกต้อง ทดสอบการทำงานของเครื่องแบตเตอรี่และอุปกรณ์มีสถานที่สำหรับขึ้นลงจอดโดรน และพื้นที่เตรียมสาร ระยะห่างพื้นที่ปฏิบัติงานโดรนกับพื้นที่ปลอดภัยอย่างน้อย 20 เมตร ห่างแหล่งน้ำ 200 เมตร

สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ใช้

ต้องขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร อ่านฉลากอัตราการใช้ ข้อควรระวังก่อนใช้สาร ผสมสารให้เข้ากันก่อนนำมาเทใส่ถังพ่น ปฏิบัติตามข้อแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการพ่นสารในช่วงดอกบานและใช้ด้วยความระมัดระวังต่อผึ้ง

อุปกรณ์ป้องกันสารกำจัดศัตรูพืชที่ถูกต้องและปลอดภัย

สวมชุดรัดกุมพร้อมอุปกรณ์ป้องกันตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน (หมวกนิรภัย แว่นตานิรภัย หน้ากากป้องกันสาร ถุงมือยางชุดคลุมแขนยาวหรือผ้ากันเปื้อน และรองเท้าบูท หรือถุงเท้ายาว) เตรียมน้ำสะอาดเพื่อจัดการ ในกรณีที่สารรั่วหรือหก และเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาล หากเกิดกรณีฉุกเฉินในการปฏิบัติงาน ติดป้ายห้ามเข้าเพื่อให้ทราบว่าพื้นที่นี้มีการพ่นสาร

โดรนเพื่อการเกษตร

ข้อปฏิบัติระหว่างการบินโดรน พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช

  • ขณะนำโดรนขึ้นบิน ผู้บังคับโดรนต้องสามารถมองเห็นโดรนในระยะสายตา
  • วัดความเร็วและทิศทางลม ความเร็วลมต้องน้อยกว่า 3 เมตร/วินาที หากมีลมแรงหรือมีฝนตก ต้องงดทำการบิน
  • ผู้บังคับโดรนต้องอยู่เหนือลมและอะอยู่หลังแนวบินเสมอ
  • ความชื้นในอากาศ ขณะฉีดพ่นต้องไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
  • ปรับแรงดันเพื่อให้ได้ขนาดละอองที่เหมาะสม ( 30 – 50 ไมโครเมตร )
  • อุณหภูมิที่เหมาะสมในการฉีดพ่นสาร 15 – 30 องศาเซลเซียส ไม่ควรเกิน 38 องศาเซลเซียส
  • การบินโดรนต้องบินสูง 1.5 – 2.5 เมตร เหนือพืชเป้าหมาย
  • ความเร็วของการบิน 4 – 6 เมตร/วินาที
  • ปริมาณน้ำที่ใช้ขึ้นอยู่กับสมรรถนะของโดรนแต่ละรุ่น
  • ลดการสัมผัสกับร่างกายและใบหน้าให้น้อยที่สุด
  • ห้ามกิน ดื่ม หรือสูบบุหรี่ ในขณะผสมและพ่นสาร

ข้อปฏิบัติหลังการบินโดรน พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช

  1. หลีกเลี่ยงการเดินผ่านแปลงปลูกเพื่อลดการสัมผัสกับละอองสาร
  2. ทำความสะอาดโดรนและอุปกรณ์ผสมสารด้วยการล้างน้ำ 3 ครั้ง
  3. หลังจากพ่นสาร ต้องถอดชุดป้องกันสาร และทำความสะอาดโดยทันที
  4. ผู้ปฏิบัติงานต้องทำความสะอาดตนเองทันที โดยเน้นทำความสะอาดบริเวณ ศรีษะ รอบดวงตา ใบหน้าและมือ
  5. ทำความสะอาดภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว ด้วยการล้างน้ำ 3 ครั้ง แล้วรวบรวมเก็บนำไปไว้ในจุดทิ้งห้ามทิ้งไว้ในแปลง ห้ามเผา หรือนำกลับมาใช้อีก
  6. ตรวจสอบให้แนใจว่าสารถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยมิดชิด ห่างจาก คน อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยงและบริเวณโดยรอบต้องไม่มีแหล่งความร้อน

ข้อควรระวังในการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช

  • สูตรสารชนิดผง (WP) และสารชนิดเม็ด (WG)ควรต้องระวังการอุดตันและการตกตะกอน
  • สูตรน้ำมัน (EC) ควรต้องระวังการเกิดพิษกับพิษ

ข้อมูล | กรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตร
เรียบเรียง | กองส่งเสริมการอารักชาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร
บรรณาธิการ | กลุ่มพัฒนาสื่อส่งเสริมการเกษตร สำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสริมการเกษตร
ออกแบบ | กลุ่มศิลปกรรมส่งเสริมการเกษตร, สำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสริมการเกษตร จัดทำในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ : พ.ศ. 2567


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ