นำโดรนมาการใช้งานเพื่อการเกษตร ทำต้องอย่างไรบ้าง?
ปัจจุบันการ นำโดรนมาการใช้งานเพื่อการเกษตร กำลังมีบทบาทอย่างมากต่อเกษตรกรไทย โดรนเพื่อการเกษตรแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ 2 ประเภท คือ
- ใช้สำรวจและวางแผนการผลิตพืช ไม่ว่าจะการสำรวจพื้นที่ติดตามการเติบโตของพืช เพื่อนำมาคาดการณ์ผลผลิตหรือวางแผนการจัดการแปลง
- ใช้เพื่อทุ่นแรง เช่นการหว่านเมล็ดพืช ปุย หรือฉีดพ่นสารเคมี โดยการใช้โดรนเพื่อช่วยในการเกษตรจะทำให้เกษตรกรประหยัดแรงงานค่าใช้จ่าย สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ลดการสัมผัสสารเคมีทางการเกษตรโดยตรง ลดการใช้น้ำ อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้สะดวกทั่วถึงมากขึ้น ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับเกษตรกรยุคใหม่
การขึ้นทะเบียนโดรนเพื่อการเกษตร
ผู้ที่ครอบครองและใช้โดรนต้องได้รับใบอนุญาตบินโดรนก่อนการบินและต้องได้รับการฝึกอบรมการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้อง โดยการบินโดรนพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช มี 3 หน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่
- สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท, CAAT) เป็นหน่วยงานรับการขึ้นทะเบียนผู้บังคับโดรน หรือการทำใบขับขี่โดรน
- สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย (กสทช., NBTC) เพื่อขอใช้คลื่นความถี่
- สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตรกรมวิชาการเกษตร เป็นหน่วยงานที่ออกใบอนุญาติ ครอบครองวัตถุอันตรายเพื่อใช้หรือใช้รับจ้างฉีดพ่นโดรนทางการเกษตร ผู้ปฏิบัติต้องผ่านการอบรมโดยได้รับใบผ่านการอบรมจาก กพท. ก่อนขออนุญาตครอบครอง
ข้อควรปฏิบัติในการบินโดรน
- ศึกษากฎหมายและปฏิบัติตามข้อบังคับในการใช้โดรน
- ผู้ปฏิบัติงานต้องได้รับใบอนุญาตบินโดรน และได้รับการฝึกอบรมการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกต้อง
- ห้ามบินใกล้อากาศยานซึ่งมีนักบิน
- ห้ามบินเข้าใกล้เมฆ
- ห้ามบินในขตหวงห้าม เช่น สถานที่ราชการ โรงพยาบาลเว้นแต่ได้รับอนุญาต
- ห้ามพ่นสารใกล้แหล่งน้ำ คลอง บึง
- ต้องไม่มีสิ่งกีดขวางบริเวณทำการบินโดรน เช่น ต้นไม้เสาไฟ สายไฟ หรือกำแพง
- ห้ามบินภายในระยะ 9 กิโลเมตร จากสนามบินเว้นแต่ได้รับอนุญาต
- ห้ามบินโดยก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญแก่ผู้อื่น
- ห้ามบินโดยก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน
- ห้ามบินสูงเกิน 90 เมตร นับจากพื้นดินและห้ามบินในแนวราบกับบุคคล ยานพาหนะ สิ่งก่อสร้างน้อยกว่า 30 เมตร
- ห้ามบินหลังพระอาทิตย์ตกดิน
ข้อควรปฏิบัติก่อนการบินโดรน พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
อุปกรณ์โดรน
ตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนปฏิบัติงาน เช่น ระบบการใช้งานไม่มีการรั่วไหล เลือกหัวฉีดที่ถูกต้อง ทดสอบการทำงานของเครื่องแบตเตอรี่และอุปกรณ์มีสถานที่สำหรับขึ้นลงจอดโดรน และพื้นที่เตรียมสาร ระยะห่างพื้นที่ปฏิบัติงานโดรนกับพื้นที่ปลอดภัยอย่างน้อย 20 เมตร ห่างแหล่งน้ำ 200 เมตร
สารป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ใช้
ต้องขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร อ่านฉลากอัตราการใช้ ข้อควรระวังก่อนใช้สาร ผสมสารให้เข้ากันก่อนนำมาเทใส่ถังพ่น ปฏิบัติตามข้อแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการพ่นสารในช่วงดอกบานและใช้ด้วยความระมัดระวังต่อผึ้ง
อุปกรณ์ป้องกันสารกำจัดศัตรูพืชที่ถูกต้องและปลอดภัย
สวมชุดรัดกุมพร้อมอุปกรณ์ป้องกันตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน (หมวกนิรภัย แว่นตานิรภัย หน้ากากป้องกันสาร ถุงมือยางชุดคลุมแขนยาวหรือผ้ากันเปื้อน และรองเท้าบูท หรือถุงเท้ายาว) เตรียมน้ำสะอาดเพื่อจัดการ ในกรณีที่สารรั่วหรือหก และเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาล หากเกิดกรณีฉุกเฉินในการปฏิบัติงาน ติดป้ายห้ามเข้าเพื่อให้ทราบว่าพื้นที่นี้มีการพ่นสาร
ข้อปฏิบัติระหว่างการบินโดรน พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
- ขณะนำโดรนขึ้นบิน ผู้บังคับโดรนต้องสามารถมองเห็นโดรนในระยะสายตา
- วัดความเร็วและทิศทางลม ความเร็วลมต้องน้อยกว่า 3 เมตร/วินาที หากมีลมแรงหรือมีฝนตก ต้องงดทำการบิน
- ผู้บังคับโดรนต้องอยู่เหนือลมและอะอยู่หลังแนวบินเสมอ
- ความชื้นในอากาศ ขณะฉีดพ่นต้องไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
- ปรับแรงดันเพื่อให้ได้ขนาดละอองที่เหมาะสม ( 30 – 50 ไมโครเมตร )
- อุณหภูมิที่เหมาะสมในการฉีดพ่นสาร 15 – 30 องศาเซลเซียส ไม่ควรเกิน 38 องศาเซลเซียส
- การบินโดรนต้องบินสูง 1.5 – 2.5 เมตร เหนือพืชเป้าหมาย
- ความเร็วของการบิน 4 – 6 เมตร/วินาที
- ปริมาณน้ำที่ใช้ขึ้นอยู่กับสมรรถนะของโดรนแต่ละรุ่น
- ลดการสัมผัสกับร่างกายและใบหน้าให้น้อยที่สุด
- ห้ามกิน ดื่ม หรือสูบบุหรี่ ในขณะผสมและพ่นสาร
ข้อปฏิบัติหลังการบินโดรน พ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
- หลีกเลี่ยงการเดินผ่านแปลงปลูกเพื่อลดการสัมผัสกับละอองสาร
- ทำความสะอาดโดรนและอุปกรณ์ผสมสารด้วยการล้างน้ำ 3 ครั้ง
- หลังจากพ่นสาร ต้องถอดชุดป้องกันสาร และทำความสะอาดโดยทันที
- ผู้ปฏิบัติงานต้องทำความสะอาดตนเองทันที โดยเน้นทำความสะอาดบริเวณ ศรีษะ รอบดวงตา ใบหน้าและมือ
- ทำความสะอาดภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว ด้วยการล้างน้ำ 3 ครั้ง แล้วรวบรวมเก็บนำไปไว้ในจุดทิ้งห้ามทิ้งไว้ในแปลง ห้ามเผา หรือนำกลับมาใช้อีก
- ตรวจสอบให้แนใจว่าสารถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยมิดชิด ห่างจาก คน อาหาร น้ำดื่ม สัตว์เลี้ยงและบริเวณโดยรอบต้องไม่มีแหล่งความร้อน
ข้อควรระวังในการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
- สูตรสารชนิดผง (WP) และสารชนิดเม็ด (WG)ควรต้องระวังการอุดตันและการตกตะกอน
- สูตรน้ำมัน (EC) ควรต้องระวังการเกิดพิษกับพิษ
ข้อมูล | กรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตร
เรียบเรียง | กองส่งเสริมการอารักชาพืชและจัดการดินปุ๋ย กรมส่งเสริมการเกษตร
บรรณาธิการ | กลุ่มพัฒนาสื่อส่งเสริมการเกษตร สำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสริมการเกษตร
ออกแบบ | กลุ่มศิลปกรรมส่งเสริมการเกษตร, สำนักพัฒนาการถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมส่งเสริมการเกษตร จัดทำในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ : พ.ศ. 2567
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ