โรคหูดในวัว (Warts Disease)
โรคหูดในวัว เป็นโรคติดต่อซึ่งมักพบในลูกสัตว์อายุต่ำกว่า 2 ปี มากกว่าสัตว์ที่มีอายุมาก ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นได้ถ้าเกิดเป็นแบบกระจายทั่วตัว หรือเม็ดหูดมีขนาดใหญ่มากจนรบกวน หน้าที่ตามปกติของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย
สาเหตุ : แพบพิโลม่าไวรัส/ โบวาย แพบพิลโลม่าไวรัส
อาการ : เกิดเป็นเม็ดหูดหลังการติดเชื้อ 4-6 สัปดาห์
การควบคุมและป้องกัน
ทำความสะอาดคอกสัตว์ อย่าให้มีสิ่งของแหลมคมซึ่งอาจขีดข่วนผิวหนังทำให้ติดเชื้อได้ง่าย กำจัดแมลงดูดเลือดหรือยุง ซึ่งอาจนำเชื้อมาสู่สัตว์ตัวอื่นได้
วิธีการแก้ไขโรคหูดในวัว ที่ผู้เลี้ยงโคนม สามารถทำวัคซีนได้ด้วยตัวเอง
- ให้ตัดหูดที่ตัววัวให้ได้มากที่สุด โดยให้สังเกตหัวที่ใหญ่ที่สุด (หัวแม่) เอาไปล้างแล้วบดหรือสับให้ละเอียด แล้วไปผึ่งลมให้แห้ง (ห้ามผึ่งแดด) หากไม่ทำทันทีให้นำหูดไปแช่ไว้ในช่องฟิตของตู้เย็น
- นำน้ำกลั่น หรือน้ำเกลือ (นอมอล คลอไรด์ ) อย่างละ 1 ลิตร (1,000 ซีซี) อย่างใดอย่างหนึ่ง ผสมฟลอมารีน 15 ซีซี (ความเข้มข้น 15% ) จะได้เป็นน้ำยาตั้งต้น
- เอาหูดที่ได้มาเทลงไปในแก้วหรือบิกเกอร์ประมาณครึ่งแก้ว แล้วเอาน้ำยาตั้งต้นเทลงไปในแก้ว 60 ซีซี จะมากกว่า 60 ซีซี ก็ได้เผื่อหก
- ตั้งทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง ในอุณหภูมิห้อง แล้วเอามากรองด้วยกระดาษ หรือผ้ากรองนมที่ละเอียด จะได้น้ำยา วัคซีน โดยนำน้ำยาที่ได้ 60 ซีซี ไปฉีดเข้ากล้ามเนื้อของวัวที่เป็นหูด 20 ซีซี ฉีดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ประมาณ 3 อาทิตย์ หัวหูด จะเริ่มค่อยๆ หลุด ส่วนน้ำยาที่เหลือก็สามารถเก็บรักษาใส่ขวดไว้ในช่องฟิตได้
นอกจากนี้ ยังมีอีกวิธีการหนึ่งคือรักษาโดยใช้เข็มบ่งเม็ดตุ่มหูด ให้เป็นแผลมีเลือดไหลซิบ ๆ ก่อน แล้วใช้ไม้พันสำลีจุ่มน้ำยาตั้งตน ทาลงบนแผลที่บ่งหูดวัวทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ภายใน 5-7 วัน เม็ดตุ่มหูดก็จะหาย แต่วิธีนี้จะไม่ปลอดภัย อาจจะเกิดติดเชื้อโรคเข้าแผลได้ ทำให้เกิดเป็นแผลเรื้อรัง จึงไม่แนะนำ
ที่มา : สำนักงานปศสัตว์อำเภอไทรน้อย
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ